หากปีนังได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของอาหารในมาเลเซียแล้วล่ะก็ เกอร์นีย์ไดรฟ์ก็คือแหล่งที่รวบรวมอาหารชั้นยอดของปีนังมาไว้ในที่เดียว การเดินทอดน่องริมทะเลจะให้คุณได้สัมผัสกับสีสันและบรรยากาศของเมืองปีนังที่เต็มไปด้วยความสดชื่นและความมีชีวิตชีวา ชาวมาเลเซียรู้จักเกอร์นีย์ไดรฟ์ในชื่อ "เปอร์ซาเรียน เกอร์นีย์" ซึ่งเป็นถนนที่เต็มไปด้วยสีสันและเป็นแหล่งอาหารชั้นเลิศ ริมชายหาดเต็มไปด้วยร้านอาหารและแผงขายอาหารกลางแจ้ง สร้างความเพลิดเพลินให้แก่นักชิมได้จนถึงยามค่ำคืน อาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ปีนังลักซา บักกุเต๋ (ซี่โครงหมูและเนื้อตุ๋นใส่สมุนไพรต่างๆ) โอเจียน (หอยทอด) ปลาหมึกย่าง และนาซิเลอมัก ซึ่งล้วนแล้วแต่น่ากิน ศูนย์อาหารเกอร์นีย์ไดรฟ์แห่งใหม่ มีทั้งโซนอาหารฮาลาล และโซนอาหารทั่วไป เปิดตั้งแต่หกโมงเย็น แต่หากคุณอยากรับประทานอาหารอื่นๆ ลองแวะเข้าไปในภัตตาคาร Corner Club เพื่อลิ้มชิมรสติ่มซำร้อนๆ ส่วนผู้ที่ต้องควบคุมน้ำหนัก สามารถใช้บริการของร้าน Mr. Pot ที่จำหน่ายแซนวิช ขนมปัง ชุดอาหารเช้าซึ่งมีให้บริการทั้งวัน อาหารเพื่อสุขภาพ และอาหารไร้ไขมัน ริมทะเลบริเวณเกอร์นีย์ไดรฟ์ ยังมีสถานที่ที่มีเสน่ห์คุ้มค่าต่อการมาเยี่ยมเยือนถึงแม้ว่าคุณไม่ใช่นักชิมก็ตาม ในตอนเช้าตรู่ของทุกวัน ชาวมาเลเซียจะออกมาวิ่งจ็อกกิ้ง ในขณะที่คนสูงอายุรำไทเก๊กอย่างเพลิดเพลิน ไกล้ๆ กัน คือวัดพม่าแห่งแรกของเกาะ ตั้งอยู่ริมถนนโลร่งเบอร์มา วัดธรรมมิการามแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1803 หลังคาปิดทองอร่าม ภายในบริเวณวัดมีเจดีย์ ต้นโพธิ์ใหญ่ และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ถัดจากวัดธรรมิการาม ไม่ไกลกันนัก มีวัดอีกแห่งหนึ่งชื่อวัดไชยามังคลาราม นักท่องเที่ยวและชาวพุทธที่เข้ามาสักการะจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นเชิงชายที่สะดุดตา เพดานโออ่า และภาพมังกรตามความเชื่อของชาวเอเชีย วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1845 มีพระนอนขนาดใหญ่ ความยาว 108 ฟุต ประดิษฐานอยู่ภายในวัด กล่าวกันว่า เป็นพระนอนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก